ฟีเจอร์ใหม่กว่า 300 รายการใน FortiOS 7.0 ขยายความสามารถซีเคียวริตี้แฟบริคของฟอร์ติเน็ต เพื่อสร้างความปลอดภัยที่สอดคล้องกันทั้งในเครือข่าย เครื่องผู้ใช้งาน และคลาวด์
Fortinet® (NASDAQ: FTNT) ฟอร์ติเน็ต ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบอัตโนมัติและครบวงจรประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ FortiOS เวอร์ชัน 7.0 อันเป็นระบบปฏิบัติการหลักของฟอร์ติเน็ตด้วยฟีเจอร์ใหม่กว่า 300 รายการ ส่งให้ FortiOS 7.0 เพิ่มความสามารถของ Fortinet Security Fabric และศักยภาพของฟอร์ติเน็ตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน ทั้งการทำงานจากภายนอกองค์กร (Remote Worker) การเพิ่มมาตราการให้ครอบคลุมและรองรับระบบเครือข่ายในจุดต่างๆ เช่น SASE Edge ก่อนเชื่อมต่อไปยังคลาวด์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ Operation Technology
ระบบปฏิบัติการ FortiOS ใหม่ช่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม
ในปัจจุบัน เมื่อเข้าสู่ยุค Cloud สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไม่สามารถรองรับแนวคิดด้านเครือข่ายและการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ ได้อีกต่อไป เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายใหม่ๆ ขึ้นเป็นจำนวนมากที่ส่วน Network Edge เชื่อมโยงการใช้งานของดาต้าเซ็นเตอร์ WAN, LAN, LTE, off-net, ระบบ Operational Technology (OT) CASB (Cloud Access Security Broker), SASE (Security Access Service Edge), อินเทอร์เน็ตและการใช้งานจากที่บ้าน (Home edge) ทั้งหมดนี้ได้ทำให้ขอบเขตของโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดขยายตัวออกไปมาก ดังนั้น กระบวนการด้านการรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเครือข่ายและความต้องการด้านประสิทธิภาพในปัจจุบัน โดยที่ศักยภาพการมองเห็น ข้อมูล การวิเคราะห์ การตรวจจับและการตอบสนองที่ประสานงานกันอย่างทันท่วงทีต่อการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งหมายถึงความจำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มแบบบูรณาการ
Fortinet Security Fabric เป็นแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมซึ่งขับเคลื่อนโดย FortiOS เพื่อให้สามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม ยืดหยุ่นและสอดคล้องกันของเครือข่ายทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ด้วยรูปแบบการใช้งานที่มากกว่าผู้จำหน่ายรายอื่นทั้งแบบกายภาพ แบบเสมือน ระบบคลาวด์และแบบบริการจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด สามารถครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย SD-WAN สวิตชิ่ง การเข้าถึงแบบไร้สาย การควบคุมการเข้าถึงเครือข่าย การรับรองความถูกต้องความปลอดภัยบนคลาวด์สาธารณะและส่วนตัว ความปลอดภัยสำหรับการใช้งานปลายทาง และโซลูชันการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ ทั้งหมดนี้ล้วนสร้างขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดียวกัน จึงส่งให้ฟอร์ติเน็ตช่วยองค์กรในทุกขนาดสามารถรักษาความปลอดภัยและลดความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานไอทีของตนได้
ตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ใน FortiOS 7.0 และรายละเอียดด้านเทคนิค
ฟอร์ติเน็ตมุ่งพัฒนาการอัปเดตที่สำคัญใน FortiOS 7.0 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นมากที่สุดในปัจจุบัน อันเกี่ยวข้องกับการทำงานจากที่บ้าน การรักษาความปลอดภัยให้กับส่วน SASE edge และอื่นๆ ดังต่อไปนี้:
การเข้าถึงเครือข่ายประเภท Zero Trust Access
- เพิ่มความสามารถ Zero Trust Network Access (ZTNA) ที่มาแทน VPN รูปแบบเดิม และเพิ่มการควบคุม Application Control: FortiOS 7.0 ช่วยให้ลูกค้าผู้ที่ใช้งานไฟร์วอลล์ FortiGate ทุกรายสามารถใช้ความสามารถ ZTNA ได้ทันที ทำให้ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวที่เปิดใช้งาน ZTNA ที่ใช้ไฟร์วอลล์ ทั้งนี้ การใช้งาน ZTNA ที่เปิดใช้งานโดย FortiOS 7.0 จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้โดยรองรับวิวัฒนาการของการเข้าถึงระยะไกล (Remote access) ที่ดีขึ้นแทนที่ VPN รูปแบบเดิม นอกจากนี้ ยังลดช่องการโจมตี ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากผู้ใช้งานประเภท Remote Worker ที่เชื่อมต่อมาจากภายนอกองค์กร โดยการยืนยันผู้ใช้และอุปกรณ์สำหรับทุกเซสชันของแอปพลิเคชัน ในขณะเดียวกันยังช่วยป้องแอพพลิเคชันที่มีความสำคัญทางธุรกิจจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้การใช้งานปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ZTNA จากฟอร์ติเน็ตช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการโดยใช้นโยบายการเข้าถึงเดียวกันไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเครือข่าย
ระบบเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยความปลอดภัย (Security-Driven Networking)
- เพิ่มการปกป้องความปลอดภัยในการใช้งานจากทุกที่ด้วย Cloud-based SASE: ฟอร์ติเน็ตช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นในการช่วยให้พนักงานทำงานได้จากทุกที่ ด้วยการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรที่สอดคล้องกันไม่ว่าจะเป็นในสำนักงาน บนคลาวด์ (โดยใช้บริการประเภท Security-as-a-Service: SaaS) ทั้งนี้ ผู้ใช้งานจากระยะไกลนอกเครือข่ายจะได้รับประโยชน์จากระดับความปลอดภัยเดียวกันไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด และรองรับการใช้งานสาขาที่ไม่ซับซ้อนได้ดีอีกเช่นกัน
- เพิ่มประสิทธิภาพของ SD-WAN ด้วย Self-healing SD-WAN: โซลูชัน Secure SD-WAN ชั้นนำของฟอร์ติเน็ตมีความสามารถในแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองผ่านวิธีการแก้ไขทาง Adaptive WAN ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น ฟอร์ติเน็ตยังได้ขยายคุณสมบัติการตรวจสอบแอปพลิเคชันแบบพาสซีฟสำหรับ SaaS และแอปพลิเคชันมัลติคลาวด์เพื่อรองรับผู้ใช้ที่ทำงานจากทุกที่ และให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อและการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 5G และ LTE: ฟอร์ติเน็ตกำลังพัฒนานวัตกรรมในเครือข่าย 5G และ LTE ที่เน้นพัฒนาประสิทธิภาพเครือข่ายไร้สายและเพิ่มความยืดหยุ่น จึงช่วยขยายการเชื่อมต่อเครือข่ายและความปลอดภัยไปไกลกว่าส่วน WAN Edge ทั้งนี้ ด้วยข้อเสนอบริการ WAN และ LTE แบบไร้สายที่หลากหลายจากฟอร์ติเน็ตดังกล่าว องค์กรต่างๆ จึงสามารถมีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ปลอดภัย ปรับขนาดได้ และพร้อมใช้งานสูงได้ทุกที่
รูปแบบการใช้งานแบบ Adaptive Cloud Security
- เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยการใช้งาน Cloud Workload ในรูปแบบมัลติคลาวด์: องค์กรในปัจจุบันกำลังหาหนทางจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงแอปพลิเคชันและประสิทธิภาพโดยรวมในมัลติคลาวด์ ดังนั้น FortiOS 7.0 ใหม่นี้จะช่วยส่งฟอร์ติเน็ตมีข้อเสนอด้านการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ปรับเปลี่ยนได้ ให้การจัดการส่วนกลางสำหรับคลาวด์แบบไฮบริด การปรับใช้ทรัพยากรได้อย่างอัตโนมัติ การปรับโหลดบาล้านซิ่งแบบไดนามิก และการมองเห็นประสบการณ์ของผู้ใช้แอปพลิเคชัน ซึ่งทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยโดยรวมในเชิงรุก และข้ามคลาวด์ประเภทต่างๆ
เพิ่มคุณสมบัติด้าน Automation สำหรับการบริหารจัดการ NOC/SOC
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ NOC และ SOC: FortiOS 7.0 มอบศักยภาพใหม่ เพิ่มคุณสมบัติด้าน Automation พร้อมออปชั่นที่ละเอียดมากขึ้น เพิ่มความสามารถการทำงานร่วมกันของ FortiManager และ FortiAnalyzer เข้ากับ FortiSOAR รุ่นล่าสุดในการตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวมเร็วให้กับผู้ดูแลศูนย์ SOC นอกจากนี้ การอัปเดตใหม่ยังทำให้การจัดการ SaaS ง่ายขึ้นและเสริมความสามารถของฟอร์ติเน็ตในการลดความซับซ้อนของการดำเนินงานให้บริหารจัดการจากจุดเดียวด้วย FortiCloud ทั้งนี้ ฟอร์ติเน็ตมีบริการ SOC-as-a-Service และ NOC Best Practice Service ให้เลือก สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมของฟอร์ติเน็ตเพื่อยกระดับประสิทธิภาพทีมปฏิบัติการของตนเองอีกด้วย
เพิ่มการใช้ข้อมูลภัยอัจฉริยะจาก FortiGuard Labs
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Video Filtering รองรับการทำงานจากที่บ้าน: กลุ่มบริการรักษาความปลอดภัยของฟอร์ติการ์ต แล็บส์ ประกอบด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย รวมตั้งแต่สำหรับคอนเท้นต์ ผู้ใช้งาน อุปกรณ์ การเข้าถึงเว็บ และการป้องกันแอปพลิเคชัน และในการเปิดตัว FortiOS 7.0 ใหม่ครั้งนี้ ฟอร์ติเน็ตได้เพิ่มคุณสมบัติการกรองวิดีโอในบริการการป้องกันเว็บที่มีอยู่แล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่รวมการกรองวิดีโอเช่นนี้ (Industry-first video filtering) เพื่อให้การป้องกันที่ละเอียดยิ่งขึ้น ช่วยควบคุมเนื้อหาและปริมาณการใช้งานวีดีโอ ให้กับผู้ใช้งานที่ทำงานจากที่บ้านมากขึ้น
ความพร้อมใช้งานของ FortiOS 7.0
FortiOS 7.0 จะพร้อมให้ใช้งานใน FortiGate ช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปีศกนี้
งาน Accelerate 2021 Digital Edition
ฟอร์ติเน็ตขอเชิญท่านผู้สนใจเข้าร่วมงาน Accelerate 2021 Digital Edition ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคมศกนี้ จัดหัวข้อเหมาะสมเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันและโซลูชันที่จำเป็นในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ ลงทะเบียนได้ที่ https://www.fortinetaccelerate.com/2021apj
คุณเควิน บราวน์ กรรมการผู้จัดการ BT Security กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษของความร่วมมือกับฟอร์ติเน็ต เราได้พัฒนาและส่งมอบโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับองค์กรต่างๆ ทั่วโลกและเราแบ่งปันความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยในการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายที่จำเป็นสำหรับรูปแบบการทำงานแบบกระจายและการทำงานระยะไกล เราช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและปริมาณงานที่ต้องการเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็ขยายการรักษาความปลอดภัยและการควบคุมการเข้าถึง Zero-trust application จาก WAN Edge ไปยัง Cloud Edge (SASE) เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันกับฟอร์ติเน็ตต่อเนื่องต่อไปในอนาคต เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวและปลอดภัยมากขึ้น”
คุณฌอน โวล์ดแมน ซีอีโอ Secure Cyber Defense กล่าวว่า “ Fortinet Security Fabric ช่วยให้เราสามารถนำเสนอแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่เติบโตและยืดหยุ่นกับลูกค้าของเรา ช่วยให้เราหลุดพ้นจากปัญหาที่เคยขายสินค้าแบบซื้อครั้งเดียวซึ่งแก้ปัญหาเดียวได้ ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ติเน็ตยังเป็นพันธมิตรที่เราไว้วางใจได้ว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราประจักษ์ในความสามารถใหม่สำหรับการทำงานจากที่บ้าน SASE และ ZTNA ของ FortiOS 7.0 ใหม่นี้”
คุณอเล็กซ์ ฟูส์ ผู้อำนวยการฝ่ายไอที The Paper Store กล่าวว่า “เราได้รวมแนวทางแพลตฟอร์มของฟอร์ติเน็ตในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นหลักในการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลของเรา เมื่อธุรกิจของเราขยายเติบโตขึ้น ฟอร์ติเน็ตมีโซลูชันที่สามารถรวมและปรับใช้งานเข้ากับสิ่งที่มีอยู่ จึงช่วยให้เราประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายและยังป้องกันรักษาเครือข่ายไฮบริดของเราให้ปลอดภัยอยู่เสมออีกด้วย”
คุณจอห์น แมดิสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และรองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์แห่งฟอร์ติเน็ตกล่าวว่า
“ผู้ขายส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยเพียงส่วนเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะตามทันภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนสูงมากในปัจจุบันด้วยแนวทางดังกล่าว นวัตกรรมใหม่ใน FortiOS 7.0 จะสานต่อความมุ่งมั่นของฟอร์ติเน็ตในการนำเสนอแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ปกป้องพื้นผิวในวงกว้าง ผสานรวมและเป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อปกป้องอุปกรณ์ ข้อมูลและแอปพลิเคชันขององค์กรในทุกขนาด”
เกี่ยวกับฟอร์ติเน็ต
ฟอร์ติเน็ต (NASDAQ: FTNT) ปกป้ององค์กร ผู้ให้บริการ และหน่วยงานรัฐบาล ขนาดใหญ่ทั่วโลกให้พ้นจากภัยไซเบอร์ ฟอร์ติเน็ตช่วยให้ลูกค้าสามารถมีข้อมูลเชิงลึกในภัยคุกคาม และสร้างการป้องกันที่ชาญฉลาดให้ธุรกิจลูกค้าดำเนินไปอย่างราบรื่น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาต่อเครือข่ายไร้พรมแดนในวันนี้และในอนาคต ทั้งนี้ เครือข่ายด้านความปลอดภัยซีเคียวริตี้แฟบลิคอันเป็นสถาปัตยกรรมใหม่จากฟอร์ติเน็ตเท่านั้นที่สามารถมอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยโดยจะไม่ยอมแพ้แก่ภัยที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นในเครือข่าย แอปพลิเคชั่น มัลติ-คลาวด์ หรือ อุปกรณ์ปลายทาง เช่น โมบาย หรือไอโอที ฟอร์ติเน็ตดำรงตำแหน่งเป็น #1 ในการจัดส่งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสู่ตลาดโลกมากที่สุด และมีลูกค้ามากกว่า 480,000 รายทั่วโลกไว้วางใจฟอร์ติเน็ตให้ปกป้องธุรกิจของตน ทั้งนี้ ศูนย์อบรม Fortinet Network Security Expert (NSE) Training Institute เป็นผู้จัดหลักสูตรการอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึงในอุตสาหกรรม รู้จักฟอร์ติเน็ตเพิ่มเติมได้ที่ www.fortinet.com และ The Fortinet Blog หรือ FortiGuard Labs